ท่ามกลางกระแสข่าวการข่าวรายชื่อของทีมชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เหลือเวลาอีกเพียง 28 วันจะเข้าไปสู่การแข่งขันนั้น ไม่มีข่าวใดที่จะรังรักษ์ความกระดิกเลื่อนลั่นได้มากไปกว่าข่าวการตัดชื่อ ซาเมียร์ นาสรี่ และกาแอล กลิชี่ พ้นจากรายชื่อทีมชาติฝรั่งเศสชุด 25 คนแรกที่จะลุย แซมบ้า\'14 ครั้งนี้
ทั้งๆที่หากไตร่ตรองถึงฟอร์มการเล่นแล้ว นาสรี่ และกลิชี่ อยู่ในฟอร์มที่ดี โดยเนื้อๆมิดฟิลด์เพลย์เมคเกอร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับสมญาว่าเป็น นิว ซีดาน อยู่ในฟอร์มที่น่าจะดีที่สุดในชีวิตของเขา เพราะว่ามีเรื่องของชั่วโมงบินเข้ามาเติมเต็มพรสวรรค์ที่มีอัดแน่นในตัว
เรียกว่าถ้าไม่นับ ฟรองก์ ริเบรี่ แล้วนาสรี่ ไม่ได้เป็นรองลงมาจากใครในทีมแม้ถ้าว่าคนเดียว
แท้จริงว่านี่เป็นการตกลงใจครั้งใหญ่ของ ดิดิเย่ร์ เดชองป์ส ซึ่งนำไปไปสู่การวิพากษ์ค่อนแคะในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
แฟนสาวของนาสรี่ อนารา อตาเนส รับไม่ได้กับการปลงใจดังกล่าว ถึงขั้นด่าสาดเสียเทเสียผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ด้วยไม่เชื่อว่าดาวเตะวัย 26 ปีจะหลุดจากทีมพวกไม่มีสาเหตุเช่นนี้ ไม่ติดแม้กว่าชุดสแตนด์บายด้วยซ้ำไป
นาสรี่ไม่แคร์เรื่องหลุดทีมชาติ
ขณะที่เจ้าตัวเองส่งลางว่าพอจะรู้เป็นนัยว่าไม่ติดทีมของเดชองป์สแน่ตั้งแต่ช่วงต้นอาทิตย์ โดยบอกว่า ผมจะดูฟุตบอลโลกผ่านโทรทัศน์ เพราะว่าถ้าผมเป็นตัวจริงของสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และคว้าดับเบิลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ยังไม่พอเพียง ยังแย่มาก ผมก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว
อย่างไรก็ดีในเบื้องหลังการตัดสินใจของ เดเด้ นั้นไม่ได้อิงอยู่กับเรื่องของ ฝีเท้า เป็นหลัก
หากแต่เป็นเรื่องของการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงภายในทีมเอาไว้ ไม่ให้เกิดกรณีปัญหาเหมือนในอดีตที่ เรย์มงด์ โดเมอเน็ค อดีตเลอ เซอเลคซิยอนเนอร์ ถูกลูกทีม สไตรก์ ในฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งเป็นกรณีอื้อฉาวที่น่าอับอายขายหน้าชาวโลก
นาสรี่ อาจจะมีฝีเท้าที่ชั้นยอดจริง แต่ที่ผ่านมาเดชองป์ส ไม่ชอบ ทัศนคติ ของดาวเตะรายนี้มากนักในการเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส และไม่ได้ให้ลงสนามตัวจริงอีกนับตั้งแต่เรียนจบเกมเพลย์ออฟ กับยูเครนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
นอกจากนี้ในช่วงแรกที่สาวเท้ามาติดทีมชาติในยูโร 2008 นาสรี่ เองถูกพูดถึงในทางลบว่าเป็นเด็กที่ไม่มีสัมมาคารวะ กล้าจะฉกชิงที่นั่งของเธียร์รี่ อองรี บนรถโค้ช และมีปากเสียงกับวิลเลี่ม กัลาส เป็นเสมอครั้งยังเล่นด้วยกันในทีมอาร์เซนอล
ในฟุตบอลโลก 2010 นาสรี่ หลุดโผทีมชาติ ซึ่งเขากล่าวในภายหลังว่าเป็น จุดเปลี่ยน ของชีวิต ที่จะหมั่นทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อจะไม่พลาดโอกาสครั้งนี้อีก เพียงแต่เมื่อได้โอกาสกลับมาเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในยูโร 2012 นาสรี่ กลับทำตัวมีปัญหาอีก โดยถลกฉากจวกเหยี่ยวข่าวจนทำให้โดนลงสิ่งร้ายแบนสถานหนักถึง 3 นัด
เมื่อยั้งคิดจากประวัติแล้ว และจาก ทัศนคติ ที่ดื้อแพ่ง โดยนักเตะรายนี้ประกาศชัดเจนว่าต้องการเป็น ตัวจริง เท่านั้น ซึ่งเดชองป์ส การรันตีตำแหน่งให้ไม่ได้ ในความรู้สึกของกุนซือผู้เคยสัมผัสแชมป์ฟุตบอลโลกกับฝรั่งเศสมาจึงคิดคำนวณแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่นาสรี่ จะกลายเป็นตัวปัญหาอีกครั้ง และมันอาจส่งผลเสียต่อ บรรยากาศ ภายในทีมทุกคนเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
ริเบรี่คือความหวังสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เดชองป์ส ตัดสินใจที่จะไม่เอานาสรี่ติดทีมไปด้วย พร้อมให้เหตุผลประกอบอย่างชัดเจนว่า ผมมีหน้าที่สร้างทีมที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เลือกนักเตะฝรั่งเศสที่เก่งที่สุด 23 คน
เพราะถึงจะไม่มีนาสรี่ เดชองป์ส ยังเชื่อว่านักเตะอย่าง มาติเยอ วัลบูเอนา, อองตวน กรีซมันน์ และริเบรี่ ดีพอจะสนับสนุนคาริม เบนเซม่า หรือหัวหอกรายอื่นๆในระบบ 4-3-3 อยู่แล้ว
ดีกว่าจะพก ระเบิดเวลา ไปบราซิลด้วย
จะถูกหรือผิดเขาก็พร้อมจะรับผิดชอบด้วยตัวเอง
รายชื่อผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศส
ผู้รักษาประตู: ฮูโก้ ญอริส (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์), สตีฟ มองดองดา (มาร์กแซลล์), มิคาเอล ลองโดร (บาสเตีย)
กองหลัง: มาติเยอ เดบูชี่ (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด), ลูคัส ดีญน์ (เปแอสเช), ปาทริซ เอวร่า (แมนฯ ยูไนเต็ด), โลร็องต์ กอสเซียลนี่ (อาร์เซนอล),) เอเลียควิม มองกาลา (ปอร์โต้), บาการี ซาญ่า (อาร์เซนอล), มามาดู ซาโก้ (ลิเวอร์พูล), ราฟาเอล วาราน (เรอัล มาดริด)
กองกลาง: โยฮัน คาบาย (เปแอสเช), เคลมองต์ เกรอนิเยร์ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (เปแอสเช), ริโอ มาวูบา (ลีลล์), ปอล ป็อกบา (ยูเวนตุส), มุสซา ซิสโซโก้ (นิวคาสเซิล), มาติเยอ วัลบูเอน่า (มาร์กเซย์)
กองหน้า: คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (อาร์เซนอล), อองตวน กรีซมันน์ (เรอัล โซเซียดัด), โลอิก เรมี่ (นิวคาสเซิล), ฟรองก์ ริเบรี่ (บาเยิร์น มิวนิค)
สแตนด์บาย: สเตฟาน รุฟฟิเยร์ (โมนาโก), โลอิก เปร์แรง (แซงต์ เอเตียง), มักซิม โกนาลองส์ (ลียง), มอร์แกน ชไนเดอร์แลง (เซาแธมป์ตัน), เบอนัวต์ เตรมูลินาส (ดินาโม เคียฟ), อเล็กซานเดอร์ ลากาแซต์ (ลียง), เรมี่ กาเบลลา (มงต์เปลลิเยร์)
ลูกแม่กิ่ง
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่
http://welovefootballclub.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น